วันพฤหัสบดีที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2559

ครั้งแรกจิ๊งจิง



ครั้งแรกที่มาวัดพระธรรมกาย

           




จำได้ว่าเมื่อปลายๆ ปี 2549 ได้มีโอกาสมาวัดพระธรรมกายเป็นครั้งแรก จากการเชิญชวนของอาจารย์ที่โรงเรียน ซึ่งตอนนั้นอยู่ ม.4 มากับเพื่อนอีกประมาณ 30 กว่าคน ทุกคนกระตือรือร้นตื่นกันตั้งแต่ตี 5 กลัวไม่ทันไปขึ้นรถ จำได้ว่ารถบัสที่จะมาวัดพระธรรมกาย จอดอยู่ที่วัดใหม่ยายนุ้ย โหววว ไกลจากบ้านมาก ก็นั่งรถเมล์กันไป เฮโลกันไปตามประสาวัยรุ่นที่อารมณ์แบบว่าไปทอดกฐินทอดผ้าป่าวัดไกลๆ ทุกคนคือวาดฝันเป็นแบบนั้น เอากีต้าร์ เอากลองมากัน(แอบอาจารย์เอามา เพราะอาจารย์สั่งห้าม ) แต่ทุกคนต้องใส่เสื้อค่ายพุทธบุตรของโรงเรียน (อันนี้อาจารย์กำชับมา) พอถึงรถบัสที่จะไปวัดพระธรรมกาย ก็เจอพี่ผู้ชายคนหนึ่งทั้งชุดคือชุดขาว (เพิ่งมารู้ทีหลัง เค้าเรียกว่าชุด อุบาสก) ยกมือไหว้พวกเราก่อนเลย "สวัสดีครับ ยินดีต้อนรับน้องๆ ครับ" เพื่อนที่ซ่าส์ๆ นี่ถึงกับเงิบกันเลยทีเดียว จากนั้นก็รีบเช็คจำนวนเพื่อนๆ ที่ลงชื่อไว้กับอาจารย์ แล้วก็ไปเลือกที่นั่ง พูดคุยเฮฮา เพื่อนคนนึงกำลังจะร้องเพลง ปรบมือ พี่ผู้ชายคนเมื่อสักครู่ ก็พูดออกไมค์มาจากหน้ารถ สวัสดีผู้มีบุญทุกท่านครับ รถของเรากำลังจะมุ่งหน้าไปวัดพระธรรมกาย ซึ่งมีพื้นที่กว้างขวางมาก พี่แกก็เล่าสาธยายสบายแฮร์กันไป จากนั้นก็ต่อด้วยสวดมนต์ ด้วยความที่เป็นวัยรุ่นมือใหม่หัดเข้าวัดตามที่อาจารย์ชวน ก็ทำตามแต่โดยดี แต่จำได้เลยว่าท่องบทสวดมนต์ได้แค่บางคำ บางประโยค แต่ก็สวดตามจนจบ ทุกคนหันหน้ามองกัน แล้วพูดว่า สงสัยงานนี้ กีต้าร์ กลอง ที่เตรียมมาจะแห้วแล้วล่ะเพื่อน เก็บไว้บนรถนี่แหละ จากนั้นรถก็มาถึงวัดพระธรรมกาย เด็กทุกคนอ้าปากค้างหวอ อึ้งในความยิ่งใหญ่ กว้างขวาง สิ่งแรกที่ทุกคนมุ่งหน้าเดินกันไปคือ ห้องน้ำ "โอ้โห สะอาดกว่าบ้านตรูอีก" เพื่อนคนนึงตะโกนมาจากด้านหลัง จากนั้นก็ขึ้นมานั่งสมาธิตามที่อาจารย์บอก คนเยอะมาก ขาวระรานตาไปหมด มีแค่กลุ่มเราและผองเพื่อนที่เป็นเสื้อขาวแต่แขนเสื้อเป็นสีเหลือง ตอนนั้นรู้สึกแปลกมาก ว่าทำไมทุกคนที่มาวัดพระธรรมกายถึงใส่ชุดสีเดียวกันทั้งหมด จากนั้นเราก็นั่งสมาธิกัน นั่งกันหลังตรงดิ่งมาก แต่แปลกที่มีพระรูปนึงมานำนั่งสมาธิ ท่านผ่องมาก ตอนนั้นไม่รู้หรอกว่าท่านนี้คือเจ้าอาวาส หรือ หลวงพ่อธัมมชโย เสียงนุ่ม น่าฟังมาก นั่งไปแล้วรู้สึกเคลิ้ม มันเย็นวูบวาบๆ ที่ท้องของเรา พอนั่งสมาธิเสร็จ ก็ถึงเวลาทนข้าวเที่ยงแล้ว น่าจะประมาณ 11 โมงนิดๆ ไปต่อแถวรับข้าวกัน สิ่งที่ได้คือ มาม่าใส่ถุง แล้วให้ไปเติมน้ำร้อนที่ก็อกเองแล้วใส่เครื่องปรุงเอง เออ!! ตอนนั้นรู้สึกตื่นเต้น เพราะไม่เคยเห็นมาม่าแบบนี้ ปกติเราจะกินแบบคัพไง แอบไปต่อแถวเอาหลายถุงเลย อาสาไปเติมน้ำให้เพื่อนด้วย กลายเป็นว่าสนุกกับสิ่งที่ทำ ได้บริการอาจารย์และเพื่อนๆ ดีจัง ช่วงบ่ายอาจารย์ก็เรียกรวมตัว พวกเราก็มานั่งสมาธิกันอีก จำได้ว่ามีเพื่อนแอบลงไปเข้าห้องน้ำ แล้วไปนอนอยู่ข้างๆ ห้องน้ำ 55++ พูดแล้วก็คิดถึงเพื่อนๆ (โทรชวนมาวัดดีกว่า) พอนั่งสมาธิเสร็จแล้วก็ถึงช่วงเวลาถวายปัจจัย พวกเราทั้งหมดก็เกาะกลุ่มกันไปกับอาจารย์ จำได้ว่า ณ เวลานั้น เรามีตังค์อยู่ในกระเป๋า 10 บาท ก็ทำทั้งหมด โดยลืมนึกไปเลยว่า แล้วค่ารถเมล์กลับบ้านล่ะ แล้วพวกเราก็รับพรกันเสร็จสรรพ ก็พากันไปถ่ายรูปรวม อาจารย์ให้ช่วยกันโหวตว่า จะใช้ Location ไหนถ่ายรูป ก็เดินๆ กันไป ก็มีเพื่อนคนนึงหยุด แล้วพูดว่า "ตรูเจอแล้ว" พร้อมกับชี้ไปที่สิ่งนั้น ทุกคนหันหน้าตามไป สิ่งที่เจอคือ รูปปั้นครุฑ เพื่อนบอกว่าตรงนี้แหละ เหมาะสุด ห๊ะ ตรงนี้เนี่ยนะ ใช่ๆ ที่นี่แหละ ทุกคนก็ไม่ขัดใจเพื่อน สรุป ภาพรวมแรกในชีวิตที่ได้มาที่วัดพระธรรมกายคือ ถ่ายรูปกับรูปปั้นครุฑ (นึกแล้วก็ขำ ทำไปได้เนาะ) แล้วจากนั้นทุกคนก็ขึ้นรถ ระหว่างนั่งรถกลับพวกเราก็ได้มีการแชร์ประสบการณ์การนั่งสมาธิ และความประทับใจที่ได้มาวัดพระธรรมกาย ซึ่งนั่นคือ  ก้าวแรกของเราที่เดินทางเข้ามาสู่เส้นทางนี้.. เส้นทางแห่งการสร้างบารมีมาจนถึงวันนี้